วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

ครั้งที่ 8 (สื่อไตเติ้ลรายการ)

สื่อไตเติ้ลรายการ
+เทคนิคการนำเสนอ แนวคิคเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ งานโฆษณาในการสร้างสรรค์ผลงานให้ประสบความสำเร็จหลักการสร้างสื่อ เพื่อการนำเสนอผลงานที่ดีตัวอย่างกรณีศึกษา สื่อไตเติ้ลรายการ Titleศิลปะในการนำเสนอไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแต่มุมกล้องการจัดเสนอที่สวยงาม สื่ออารมณ์ และความมายตามที่ผู้ผลิต รายการต้องการเท่านั้น ยังมีศิลปะของการนำเสนออีกรูปแบบหนึ่งที่ทุกรายการจะขาดไม่ได้ นั้นคือ ส่วนที่เรียกว่าเป็น ส่วนประกอบรายการ อันได้แก่ ไตเติ้ล ตตัวอย่างรายการ อินเตอร์ลูคหรือดีซีน และทัศนรายการ
ไตเติ้ล
คือส่วนประกอบรายการโทรทัศน์ ที่ทำหน้าที่บอกชื่อรายการโดยปกติจะอยู่ ในส่วนทายสุดของรายการ
+1. รูปแบบการนำเสนอ
+2. ลักษณะของภาพ
+3. ทัศนสารที่ใช้สร้างเรื่อง
+4. ตัวอักษรชื่อรายการ
+5. ลำดับการนำเสนอ
+6. การใช้เสียง
+7. ความยาว
+8. ลีลา
1.รูปแบบการนำเสนอไตเติ้ลรายการ คือ วิธีการเล่าเรื่องด้วยภาพที่ปรากฎในไตเติ้ลรายการ

-1.1 การใช้ชื่อรายการ มีการใช้เฉพาะ ชื่อรายการเท่านั้นในการนำเสนอ โดยปราศจากภาพที่จะช่วยขยายความหรือเล่าเรื่อง
-1.2 การใช้สัญลักษณ์ สัญลักษณ์ เป็ฯสิ่งที่ใช้แทนความหมายของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป
-1.3 การนำเสนอบุคคล การนำเสนอบุคคลในไตเติ้ล รายการมี 3 ลักษณะ คือ การแนะนำผู้ดำเนินรายการหรือพิธีกร การแนะนำนักแสดง และการนำเสนอแขกรับเชิญ
-1.4 การใช้ภาพแสดงเนื้อหา ภาพแสดงเนื้อหาที่ใช้เป็นรูปแบบการนำเสนอไตเติ้ล ทำให้ผู้ชมทราบได้เป็นอย่างดี
-1.5 การสร้างโครงเรื่อง โดยปกติแล้วโครงเรื่องเป็ฯส่วนประกอบสำคัญของการเล่าเรื่องเป็ฯรูปแบบละคร
+2. ลักษณะของภาพไตเติ้ลรายการที่ดี
-2.1 ชนิดภาพ มีการสร้างสรรค์ภาพโดยใช้ภาพที่ถ่ายจริง มักเป็นไตเติ้ล
-2.2 มุมมองภาพ ที่ปรากฎ มักเป็นภาพประเภท- Simple shot คือ เป็นภาพที่มีเพียงวัตถุเท่านั้นที่เคลื่อนไหว- Developing shot คือ เป็นภาพที่ประกอบขึ้นจากการเคลื่อนไหวของเลนส์- Complex shot คือ เป็นภาพประกอบขึ้นจากการเคลื่อนไหวของเลนส์ (ซูมเข้า-ซูมออก หรือเปลี่ยนระยะชัด)
-2.3 ลำดับภาพ คือ วิธีการเรียงร้อยภาพเข้าไว้ด้วยกันเพื่อการสื่อสารไปยังผู้ชม- การตัดภาพ คือ เป็นการนำเสนอภาพหนึ่งไปต่อท้ายอีกภาพหนึ่ง- การจางซ้อนภาพ คือ เป็นการนำเสนอภาพหนึ่ง ไปเชื่อมทั้งภาพหนึ่ง โดยที่ในช่วงการเชื่อมต่อ ช่วงท้ายของภาพแรกค่อย ๆ จางหาย- การกวาดภาพ คือ เป็นการนำเสนอภาพหนึ่งไปเชื่อมกับอีกภาพหนึ่ง โดยช่วงการเชื่อมต่อยังคงเห็นทั้งสองภาพ มีความชัดเท่านั้น
+3.ทัศนสารที่ใช้สร้างเรื่อง ได้แก่ พื้นที่ เส้น รูปร่าง ความเข้มสี สี การเคลื่อนไหว และจังหวะ
-3.1 พื้นที่ การใช้พื้นหลังให้เป็นสามมิติ
-3.2 เส้น ปรากฎอยู่ในทุกส่วนของภาพ เพราะเมื่อมีความแตกต่างของความเข้มสีหรือสีตัดกันอย่างชัดเจน เส้นจะพบเห็นในไตเติ้ล
-3.3 รูปร่าง การใช้รูปร่างพื้นฐาน ได้แก่ วงกลม สี่เหลี่ยม และสามเหลี่ยม สำหรับรูปร่างพื้นฐาน สองมิติ และทรงกลม ลูกบาศก์
-3.4 สีและความเข้มสี สีแต่ละสีให้อารมณ์
สีแดง - ตื่นเต้นเร้าใจ

สีเหลือง - ดูสดใส ศักดิ์สิทธิ์
สีน้ำเงิน - หนักแน่นมีราคา
สีฟ้า - ให้ความสุขสบาย โปร่ง
สีเขียว - ความรุ้สึกสดชื่น
สีม่วง - มีเสน่ห์ ลึกลับ
สีชมพู - รู้สึกนุ่มนวล
สีสันหลากหลาย สดใส สนุกสนาน

วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553

ครั้งที่ 7 (ทำอักษรใน Illustrator)

การทำ เงา อักษร Illustrator
+1.เปิดโปรแกรม Illustrator

+2.พิมพ์ข้อความ เช่น BIG ปรับขนาดตามต้องการ
+3.เปลี่ยนสี Fill และสีเส้นตรง stroke
+4.object Transform Reflectคลิก Angle ปรับ 180 องศา Preview copy
+5.Object Croup
+6.Effect - 3D Extrude&Bevel คลิก Previewขยับกล่องตามต้องการ ปรับหมุน องศาExtrude Doptr ปรับมิติ หนาmore Options ปนับแสง New Light ทำแสงตำแหน่งที่2 คลิก OK
+7.คลิก Default Fill and stroke
+8.คลิก Rectangle ครอบ อักษร
+9.คลิก Window Transparency ตามด้วย Mark opacity mark
+10.คลิก Show Gradient swatches คลิก ช่อง ขาวดำ
+11.Gradient ดึงให้แสงตามต้องการ
+12.Opacity ปรับแสงเงา ด้านล่าง


สำเร็จ ดังรูป

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ครั้งที่ 6 (การสร้างสรรค์งานโฆษณาให้โดดเด่น BANNER)

ภาพศิลปิน
ชื่อ : Moderndog
ข้อมูลเบื้องต้น : โมเดิร์นด็อก (อังกฤษ: Moderndog) นักดนตรีกลุ่มแนวอัลเทอร์เนทีฟร็อกของไทย เป็นหนึ่งในนักดนตรีกลุ่มแรก ๆ ที่จุดประกายดนตรีทางเลือก (อัลเทอร์เนทีฟ) ให้ได้รับความนิยมได้ประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2537 โมเดิร์นด็อกเริ่มต้นจากวงดนตรีนิสิตที่ชนะการประกวด โค้กมิวสิกอวอร์ด ประจำปี พ.ศ. 2535 จากนั้นได้ออกอัลบั้มชุดแรก โมเดิร์นด็อก-เสริมสุขภาพ ในปี พ.ศ. 2537 สังกัดค่ายเบเกอรี่มิวสิค โดยมี "สุกี้" กมล สุโกศล แคลปป์ เป็นผู้อำนวยการผลิต ด้วยแนวดนตรีแบบ ฟังก์ โซล โมเดิร์นร็อก และกรันจ์ที่ผสมผสานกันลงตัว อัลบั้มดังกล่าวจึงประสบความสำเร็จมาก และได้จุดประกายดนตรีทางเลือกแก่วงการดนตรีเมืองไทยนับแต่นั้น
สมาชิก: สมาชิกปัจจุบันมี 3 คน ประกอบด้วย
-ธนชัย อุชชิน (ป๊อด) ร้องนำ, กีตาร์
-เมธี น้อยจินดา (เมธี) กีตาร์
-ปวิณ สุวรรณชีพ (โป้ง) กลอง
กลุ่มเป้าหมาย : 15-28 ปี
Concept : Moderndog Enjoy
Mood & Tone :
1.อิสระ
2.สบายๆ

3.เหงา

===========================================================
การสร้างสรรค์ผลงาน
หลักการสร้างสื่อเพื่อการนำเสนอที่ดี
+ตัวอย่างกรณีศึกษา สื่อป้ายโฆษณาบนเว็บ ( web Banner )
คือรูปแบบหนึ่งของโฆษณาบนเวิลด์ไวด์เว็บ เป็นการวางภาพโฆษณาลงบนหน้าเว็บแล้วทำลิงค์ กลับไปยังเว็บไซต์ที่โฆษณา ด้วยจุดประสงค์เพื่อดึงดูด ผู้เข้าชมให้เข้าไปยังเว็บ ไซต์ที่โฆษณานั้นผ่านการคลิก เว็บแบนเนอส์ สร้างขึ้นจากไฟล์รูปภาพ ทั้วไปเช่น GIF JPG PNG หรือใช้จาวาสคริปส์ เชื่อมโยงเทคโนโลยีมัลติมีเดียอย่างอื่น เช่น แฟลช ข้อความ จาวา หรือซิลเวอร์ไลต์ เป็นต้น และอาจมีการใช้ภาพเคลื่อนไหว เสียง หรือวีดีโอ มาผสมผสานเพื่อนำเสนอโดดเด่นมากที่สุด
+การสร้างสรรค์ผลงานเนื้อหาที่ต้องการสื่อในเว็บแบนเนอส์ ก็คล้ายกับป้ายโฆษณาในชีวิตจริง

คือการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้ลูกค้า หรือคนอื่นทั่วไปพบว่ามีสินค้าหรือบริการอะไรในปัจจุบัน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า
+ขนาดแบนเนอร์

ที่เป็นที่นิยม728x90 Pixel : Leader boardเป็นแบนเนอร์ขนาดนิยม ขนาดใหม่ สามารถแสดงข้อมูลสินค้าและบริการได้มาก
+ตำแหน่งBeanner

ที่เหมาะสมที่สุดได้แก่ "ด้านบนถัดลงมา" เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่เป็นจุดศูนย์รวมของการมองภาพทั้งหมดในเว็บไซด์
+องค์ประกอบที่ใช้ในการออกแบบแบนเนอร์ มี 6 ชนิด ได้แก่

1. พาดหัว
2. ข้อความโฆษณา
3. ภาพประกอบ
4. สัญลักษณ์ของผู้โฆษณา
5. สี
6. * การเคลื่อนไหวและการใช้เสียงประกอบ
+หลักการออกแบบแบนเนอร์ที่ดีได้แก่

1. ตัวอักษร
-ขนาดและสัดส่วน ที่เหมาะสม โดยประมาณ
พาดหัว 48 pt
ข้อความ 32 pt
-รูปแบบเหมาะสมสอดคล้องกับบุคลิก(mood & tone )
-รูปแบบไม่ควรเกิน 2-3 แบบ
2. สัญลักษณ์

-ควรกำหนดขนาดให้เด่นหรือด้อย
3. ภาพประกอบ

-ควรใช้ภาพกราฟิก ในการออกแบบมากกว่าภาพถ่าย เนื่องจาก ขนาดของไฟล์ ของภาพลายเส้น (GIF) เล็กกว่าโหลดได้เร็วกว่ากับโฆษณา
-ภาพที่เป็นลายเส้นควรใช้ (Gif)
-ภาพที่เป็นรูปภาพควรใช้ (Jpg)
4. สี

-ระบุค่าสีในระบบ RGB 216 สี
-พื้นหลังและตัวอักษรควรใช้สีตัดกันให้เด่นชัด
-จับคู่สีให้เหมาะสม ไม่ควรเกิน 2-3 สี
5.การจัดวาง
-ใช้เส้นไกด์หรือตารางกริอ (Guide/Grid)
-การจัดวาง

ครั้งที่ 5 (งานโฆษณา KMA)

สินค้า KMA
Concept :
มนต์สะกดแห่งความงาม





วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ครั้งที่ 4 (แนวคิดในการสร้างสรรค์งานโฆษณา)

เทคนิคการนำเสนอการสร้างสรรค์งานให้ประสบผลสำเร็จ
+1.การวางกลยุทย์ในการสร้างสรรค์
+2.การนำเสนอความคิดสร้างสรรค์3.สร้างสรรค์ผลงานให้โดดเด่น
การนำเสนอความคิดสร้างสรรค์

Excution หมายถึง การใส่เนื้อหา ภาพ คำพูด และอื่นๆมาผสมผสานอย่างมีศิลปะเพื่อให้เกิดการสื่อความหมาย
+1.องค์ประกอบของการสร้างสรรค์งานโฆษณา
+2.รูปแบบการนำเสนอภาพโฆษณา
องค์ประกอบของการสร้างสรรค์งานโฆษณา
+1.ส่วนที่เป็นคำพูด หรือ วัจนภาษา ประกอบด้วย
-พาดหัวหลัก
-พาดหัวรอง
-ข้อความโฆษณา
-คำบรรยายใต้ภาพ
-สโลแกน
-บรรทัดท้าย
-ชื่อตราสิ้นค้า
+2.ส่วนที่ไม่เป็นคำพูด หรือ อวัจนภาษา
-ภาพประกอบ
-การจัดภาพที่ดี
-เครื่องหมายการค้า
-ขนาด
-สี
-ตัวอักษร
รูปแบบการนำเสนอภาพโฆษณา
+1.ภาพอุปมาทางการเห็น
+2.การใช้ภาพเหนือจริง
+3.การสร้างความผิดปกติจากของจริง
+4.การร่วมกัน 2 สิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
+5.การใข้มุมกล้องแทนสายตาผู้ดู
+6.การ้อเลียน
+7.ภาพที่มีขนาดไม่ปกติ



การใช้ภาพที่ไม่คาดคิด

(Unexpected Visual Images)

1. การอุปมาทางการเห็น

(Visual Metaphor)


2. การใช้ภาพเหนือจริง
(Surrealism)
3. การสร้างความผิดปกติจากของจริง
(Violating Reality)


4. การรวมกันเข้าของสองสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
(Morphing, Blending and Merging)


5. การใช้มุมกล้องแทนสายตาผู้ดูหรือผู้ถ่าย
(Subjective Camera)


6. การล้อเลียน
(Visual Parodies)


7. ภาพที่มีขนาดไม่ปกติ
(Unusual Size)




วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ครั้งที่ 3 (การใช้โปรแกรม Photoshop)

+1. การปรับแต่งภาพกราฟิกไฟล์
ภาพที่ได้จากกล้องดิจิตอลเป็นไฟล์กราฟิกประเภทหนึ่งในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีชื่อเรียกว่าไฟล์ภาพแบบ “บิทแมพ” (Bitmap) คุณสมบัติที่สำคัญของไฟล์ประเภทนี้คือประกอบขึ้นจากจุดสีขนาดเล็กจำนวนมากที่เรียกว่า “พิกเซล” (Pixel) เรียงตัวกันเป็นรูปตาราง เนื่องจากจุดสีเหล่านี้เล็กมากเมื่อเรามองแบบรวม ๆ จึงเห็นเป็นภาพถ่ายที่มีการไล่ระดับสีสมจริงเหมือนธรรมชาติการปรับภาพให้คมชัด (Unsharp Mask)Photoshop สามารถปรับภาพที่เบลอให้คมชัดขึ้นได้ แต่คำสั่งนี้จะให้ผลดีในระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะถ้าปรับมากเกินไปจะทำให้เห็นขอบวัตถุในภาพเป็นเส้นหรือรัศมีอย่างชัดเจนจนดูไม่ได้สมจริงเลือกคำสั่ง Filter >sharpen>Unsharp Mask การใช้ Fillter GalleryFillter Gallery เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราใส่ฟิลเตอร์ให้กับภาพได้ครั้งละหลายตัวโดยไม่ต้องทำทีละคำสั่ง มีภาพตัวอย่างแสดงให้เห็นผลลัพธ์รวมของฟิลเตอร์ทั้งหมดทันที และสามารถปรับแต่งออปชั่นหรือสลับลำดับของฟิลเตอร์ได้เครื่องมือนี้จึงช่วยให้การสร้างเอฟเฟ็คต์เพิเศษที่ต้องใช้ฟิลเตอร์หลายตัวประกอบกันสะดวกรวดเร็วขึ้นมากการเปิด Dry Brush ทำใด้ 2 วิธี
-1. เปิดจากคำสั่ง Fillter > Fillter Gallery กรณีนี้ฟิลเอตร์ชุดเดิมที่คุณเคยเลือกไว้ด้วยวิธีนี้จะถูกเรียกกลับขึ้นมา
-2.เปิดจากคำสั่งของฟิลเตอร์ใดฟิลเตอร์หนึ่งจะถูกจัดอยู่ใน Fillter Gallery เช่น Fillter > Artistic > Dry Brush กรณีนี้ฟิลเตอร์ Dry Brush จะถูกเรียกใช้ก่อน หลักงานนั้นคุณสามารถเลือกฟิลเตอร์อื่น ๆ เพิ่มได้

+2. การตัดต่อ/ตกแต่งภาพการตกแต่งภาพ
เราอาจจะแต่งในภาพเพียงภาพเดียว หรือนำหลายๆ ภาพมาตกแต่งร่วมกัน โดยเลือกบางส่วนในแต่ละภาพมาประกอบกัน เราสามารถเลือกส่วนของภาพนั้นได้ด้วยเครื่องมือที่ชื่อ Marquee Tool ซึ่งเป็นเครื่องมือตัวแรก ของชุดเครื่องมือ ประกอบด้วย Rectangle Maquee Tool สำหรับเลือกส่วนของภาพในแบบสี่เหลี่ยมตามที่ต้องการ สังเกตว่าที่เครื่องมือนี้ จะมีเครื่องหมายสามเหลี่ยม อยู่ที่มุมล่างด้านขวา แสดงว่าจะมีเครื่องมือในแบบเดียวกันซ่อนอยู่ด้วย โดยเราสามารถเรียกใช้ด้วยการคลิ้กเมาส์ค้างไว้ ก็จะปรากฏเครื่องมือต่างๆ ที่อยู่ในชุดนี้ขึ้นมา Elliptical Maquee Tool ใช้สำหรับเลือกส่วนของภาพในแบบวงกลมหรือวงรีตามที่ต้องการSingle Row Maquee Tool ใช้สำหรับเลือกส่วนของภาพในแบบ 1 พิกเซล ตามแนวนอน Single Column Maquee Tool ใช้สำหรับเลือกส่วนของภาพในแบบ 1 พิกเซล ตามแนวตั้งย้ายส่วนของภาพเมื่อเลือกส่วนของภาพได้แล้ว เราจำเป็นที่ต้องมีการเคลื่อนย้ายส่วนของภาพนั้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของเครื่องมือ Move ToolMove Toolสำหรับเคลื่อนย้ายภาพหรือส่วนของภาพที่เราต้องการ ไปยังตำแหน่งใหม่ หรือไปตกแต่งร่วมกับภาพอื่น การใช้งานเพียงแค่คลิ้กเมาส์ที่ส่วนนั้น แล้วลากไปปล่อยทิ้งในตำแหน่งที่ต้องการเลือกส่วนของภาพแบบอิสระในการตกแต่งภาพจริงๆ นั้น มักจะมีการเลือกแบบอิสระ หรือตามรูปร่างของบริเวณภาพที่ต้องการ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ด้วยเครื่องมือ Lasso Tool โดยเครื่องมือในชุดนี้ จะประกอบด้วยเครื่องมือ 3 ตัวด้วยกัน คือ Lasso Tool สำหรับเลือกส่วนของภาพแบบอิสระ ด้วยการคลิ้กเมาส์ค้างไว้ แล้วลากคลุมบริเวณที่เราต้องการ จนแนวเส้นการลากมาบรรจบกันอีกครั้ง ก็จะได้ขอบเขตการเลือกภาพที่ต้องการ สามารถใช้เครื่องมือ Move Tool ในการย้ายเพื่อตกแต่งต่อไปได้ Polygonal Lasso Tool สำหรับเลือกส่วนของภาพแบบอิสระ เช่นเดียวกับ Lasso Tool แต่เป็นการเลือกแบบทีละจุด ไปเรื่อยๆ ด้วยการคลิ้กเมาส์ที่จุดแรก แล้วปล่อย แล้วจึงค่อยคลิ้กที่จุดต่อๆ ไป จนแนวเส้นที่คลิ้ก มาบรรจบกันอีกครั้ง Magnetic Lasso Tool สำหรับเลือกส่วนของภาพแบบอิสระ เช่นเดียวกับ Lasso Tool แต่เป็นการเลือกแบบเช็กค่าสีของภาพ เราเพียงแค่คลิ้กเมาส์ที่จุดแรก แล้วปล่อย จากนั้นลากเมาส์ไปเรื่อยๆ ให้ใกล้กับบริเวณที่เราต้องการ เครื่องมือนี้จะไล่ไปตามขอบเขตอัตโนมัติ แบบแม่เหล็ก ทำให้การเลือกภาพทำได้ง่ายและรวดเร็ว

+3. การใช้งานเลเยอร์ลักษณะการทำงานแบบเลเยอร์
เป็นเหมือนการวางแผ่นใส ซ้อนทับกันเป็นลำดับขั้นขึ้นมาเรื่อยๆ โดยแต่ละแผ่นใส เปรียบเสมือนเป็นแต่ละเลเยอร์ บริเวณของเลเยอร์ที่ไม่มีรูป จะเห็นทะลุถึงเลเยอร์ที่อยู่ข้างล่าง โดยกระบวนการเช่นนี้ จะทำให้เกิดเป็นรูปภาพสมบูรณ์ และทำให้เราสามารถจัดวางงานได้ง่ายการใช้งาน Layers PaletteLayers Palette เป็นศูนย์รวมของเลเยอร์ทั้งหมด ที่มีอยู่ในภาพ โดยเรียงตามลำดับ จากเลเยอร์ที่อยู่บนสุดไปจนถึงเลเยอร์ที่อยู่ล่างสุด มี Scoolbar เลื่อนขึ้นลงเพื่อดูเลเยอร์ต่างๆ แต่ละเลเยอร์จะมีชื่อของเลเยอร์นั้นๆ อยู่นอกจากนี้ Layers Palette ยังเป็นเหมือนตัวควบคุมลักษณะการใช้งานของเลเยอร์ทั้งหมด เราสามารถเรียก Layers Palette ขึ้นมาใช้งาน โดยการใช้คำสั่ง Window> Show Layers ที่แถบเมนู Active Layer ในการใช้งานโปรแกรม Photoshop นั้นแม้จะประกอบไปด้วยเลเยอร์หลายเลเยอร์ แต่เราจะทำงานได้เพียงทีละเลเยอร์เท่านั้น เลเยอร์ที่เรากำลังทำงานอยู่ เราเรียกว่า Active Layer ซึ่งใน Layers Palette จะปรากฏเป็นแถบสีน้ำเงิน และมีไอคอนปรากฏอยู่ในช่องแสดงสถานะของเลเยอร์ เช่น แสดงว่ากำลังทำการปรับแต่งเลเยอร์อยู่ หรือ เป็นการเพิ่มเลเยอร์ Mask ให้กับเลเยอร์นั้นการเปลี่ยนการทำงานไปในเลเยอร์ต่างๆเราสามารถเรียกเลเยอร์ใดทำงานได้ โดยการเลื่อนเมาส์ ไปที่เลเยอร์ที่ต้องการ ตัวชี้เมาส์จะเปลี่ยนเป็นรูป แล้ว Click mouse ที่แถบของเลเยอร์นั้น เลเยอร์นั้นจะกลายเป็น Active Layer โดยทันทีการซ่อนและแสดงเลเยอร์ภาพภาพหนึ่งจะประกอบไปด้วย เลเยอร์หลายเลเยอร์ ในบางครั้งหากเราต้องการปิดบางเลเยอร์ ไม่ให้มองเห็น ก่อน เพื่อความสะดวกในการทำงาน โดยที่ไม่ได้ลบเลเยอร์นั้นทิ้ง เราสามารถสั่งให้มีการซ่อน และแสดงเลเยอร์ได้ โดย
-1. ซ่อนเลเยอร์โดย Click mouse ที่ เพื่อซ่อนเลเยอร์ ซึ่งช่องสถานะนั้นจะเปลี่ยนเป็น
-2. ผลลัพธ์ที่ได้ คือ เลเยอร์ Mushroom จะหายไป
-3. แสดงเลเยอร์โดย Click mouse ที่ อีกครั้งหนึ่ง เพื่อแสดงเลเยอร์ ช่องสถานะจะเปลี่ยนกลับมาเป็น
-4. ผลลัพธ์ที่ได้ เลเยอร์ Mushroom จะปรากฏขึ้นอีกครั้ง
-5. ซ่อนและแสดงหลายๆ เลเยอร์พร้อมกัน โดยการ Drag mouse ผ่านช่องสี่เหลี่ยมต่างๆ
-6. ผลลัพธ์ที่ได้ เลเยอร์ Vegetable, Gevi, Orange และ Mushroom จะหายไป

+4. การวาดภาพระบายสีการเทสีภาพ
การใช้ Brush Tool
-1.เลือกสีของพู่กัน
-2.เลือกขนาดและลักษณะของหัวพู่กัน
-3.กำหนดออปชั่นต่างๆ (โดยการใช้ F5 )
-5.คลิกภาพวาดตามที่ต้องการ
ส่วนการใช้ Pencil ก็มีรูปแบบการใช้งานที่คล้ายกับ Brush Tool
โดยใช้คำสั่ง Paint Bucket Tool
-1. Selection เลือกพื้นที่ภาพที่เราต้องการเติมสี
-2. Click mouse ที่ไอคอน
-3. Click mouse ที่ Foreground Color เพื่อเลือกสีที่จะเติม
-4. ปรับค่าสีที่จะเติมในภาพด้วย Tool Options bar โดยมีรายละเอียดต่างๆเลือกสีที่ใช้เติม ได้แก่ Foreground ใช้สีเดียวกับ Foreground colorPattern เติมภาพด้วยลวดลาย
การไล่โทนสีภาพโดยการใช้คำสั่ง Gradient Tool

การใช้งานคำสั่ง Gradient Tool
-1. เลือกพื้นที่ที่ต้องการเทสีภาพ ในที่นี้คือ พื้นที่ที่เป็นเส้นประสี่เหลี่ยม
-2. Click mouse ที่ไอคอน Gradient Tool
-3. Click mouse เลือกรูปแบบไล่โทนสีที่ Tool Options bar
-4. Drag mouse จากจุดเริ่มต้นไปยังจุดปลาย ตามตำแหน่งที่ต้องการ แล้วปล่อยเมาส์- จุดที่เริ่มกดเมาส์ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น- จุดที่ปล่อยเมาส์ ถือว่าเป็นจุดปลาย
การแสดงการไล่สี มี5รูปแบบ
-1. Unear Gradtent Tool การไล่โทนสีในแนวเส้นตรง
-2. Radial Gradient การไล่โทนสีตามรัศมีของวงกลม
-3. Angular Gradient การไล่โทนสีแบบการวาดตามการหมุนของเข็มนาฬิกา
-4. Reflected Gradient การไล่โทนสีแบบภาพสะท้อน
-5. Diamond Gradient การไล่โทนสีแบบประกายแสงของเพชร

+5. การสร้างอักษรและข้อความการพิมพ์ตัวอักษรลงในภาพ
การพิมพ์ตัวอักษรหรือทำตัวอักษรศิลป์ก็คล้ายกับพิมพ์ในโปรแกรม Word หรือ Excel นั่นแหละครับ มีการกำหนดฟอนต์ตัวอักษร เลือกสไตล์ ขนาด การจัดกลาง การกำหนดสีหรือแม้กระทั่งการบิดข้อความทำให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนักเรียนนะครับ เดี๋ยวเรามาเริ่มกันเลยเปิดไฟล์ภาพที่นักเรียนเคยบันทึกไว้ แล้วคลิก Horizontal type Tool ที่กล่องเครื่องมือ นักเรียนสังเกตมุมขวามือล่างที่พาเล็ต Layer จะเกิดเลเยอร์ใหม่ขึ้นมาเป็นรูปตัวคลิกที่ภาพเมาส์จะกลายเป็นรูปเคอเซอร์กระพริบ ให้นักเรียนพิมพ์ตัวอักษรคำว่า Happy New Year 2005 จะเปลี่ยนชนิดของตัวอักษรก็คลิกเมาส์ที่ตัวอักษรแล้วลากคลุมดำทุกตัว เปลี่ยนฟอนต์ตัวอักษรและอื่น ๆ ได้ที่แถบออปชั่นบาร์ด้านบนต้องการเปลี่ยนรูปร่างของข้อความคลิกที่ Warp Text เลือก Style ตามต้องการ หากตัวอักษรที่ได้ไม่กลางหรือต้องการจะปรับขนาดใหม่ ให้คลิกที่ Edit >Free Transform คลิกเมาส์ค้างไว้แล้วลากไปวางยังตำแหน่งที่ต้องการ หากต้องการยืด หด ให้นำเมาส์มาชี้บริเวณมุมกรอบรอบตัวอักษรเมาส์จะเป็นรูป ื คลิกค้างแล้วลาก ต้องการหมุนตัวอักษรเอียงใช้เมาส์ชี้ที่มุมกรอบรอบตัวอักษรห่างจากกรอบพอประมาณเมาส์จะกลายเป็นรูป คลิกเมาส์ค้างไว้แล้วหมุนกำหนดเอฟเฟคต์ให้ตัวอักษร คลิกเลือกเลเยอร์ที่มีคำว่า Happy New Year 2005 ให้เป็นสีน้ำเงิน เลือกพาเล็ต Style เลือกรูปแบบสไตล์ที่โปรแกรมสร้างไว้ได้เลย หรือหากต้องการเอฟเฟ็คต์เพิ่มเติมให้คลิกที่ปุ่ม Add a layer style เลือกทำเครื่องหมายถูกหน้าสไตล์ที่ต้องการ